ตอน : แก้มลิง,อ่างพวง คือ คำตอบ…น้ำท่วม!
“ในหลวง รัชกาลที่ 9” พระราชทานแนวพระราชดำริ “แก้มลิง” เพื่อตัดยอดน้ำ หลากจากต้นน้ำเป็นระยะๆ เพื่อเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในยามแล้งและทรงแนะนำ “อ่างพวง” ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเรียงรายลดหลั่นลงมาตามพื้นที่สูงชันรับน้ำหลากเก็บกักเอาไว้ในรูปแบบเดียวกับ “เขื่อนขนาดใหญ่”
เขื่อนใหญ่ก่อให้เกิดพื้นที่น้ำท่วมหน้าเขื่อนมหาศาล
เขื่อนใหญ่ทำลายผืนป่าหรือป่าฝนหน้าเขื่อนเป็นบริเวณกว้างขวาง ป่าไม้ที่อุดม สมบูรณ์ เช่น สะเอียบ แพร่ หรือ ป่าแม่วงก์ นครสวรรค์ จะถูกตัดทำลายเพื่อก่อสร้าง เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และการปลูกไม้ทดแทนไม่สามารถทำได้สำเร็จแม้แต่ เขื่อนเดียวในประเทศไทย
ความสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ “ป่าไม้” ที่มีมูลค่ามหาศาลต้องสูญเสียไปโดยไม่สามารถเรียกคืนได้ ส่งผลกระทบต่อภูมิอากาศเมืองไทยอย่างฉกาจฉกรรจ์
เขื่อนใหญ่ยังต้องใช้งบประมาณของประเทศอย่างมหาศาล ในขณะที่เงินทองใน ท้องพระคลังหรือเงินงบประมาณจากภาษีอากรของพี่น้องชาวไทยไม่พร้อมที่จะให้นักการเมืองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยกันถลุงเงินทองของประเทศได้อีก
การสร้าง “อ่างพวง” กับ “แก้มลิง” เป็นหนทางของการประหยัดงบประมาณได้อย่างมหาศาล ได้ประโยชน์ในการป้องกันอุทกภัย ได้ประโยชน์จากการบรรเทา ภาวะภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดเรื่อง “อ่างพวง” เกิดขึ้นในสถานการณ์ (จะ) สร้างอ่างเก็บน้ำในแม่น้ำยม บริเวณแก่งเสือเต้น ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ และเขื่อนแม่วงก์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์
การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนกักเก็บน้ำในลำน้ำยมและลำน้ำแม่วงก์เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ใช้เวลาก่อสร้างเนิ่นนานหลายปี ต้องตัดต้นไม้ในอ่างหน้าเขื่อนมากมายนับเป็นผืนป่าใหญ่ซึ่งบ้านเมืองจะสูญเสียป่าไม้สูงค่าที่อำนวยฝนให้กับเมืองไทยอย่างประมาณค่ามิได้และไม่สามารถเรียกคืน
ทั้งยังเกี่ยวข้องกับพื้นที่อาศัยของสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าหายาก สัตว์ป่าคุ้มครอง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตอุทยานแห่งชาติ ฯลฯ มากมายโดยไม่สามารถเนรมิตป่าและสัตว์ป่ามาทดแทนได้
ราษฎรในพื้นที่น้ำท่วมถึงต้องอพยพออกจากที่ดินทำกินเดิมที่อุดมสมบูรณ์ไปอยู่ในสถานที่ใหม่ ที่ทางราชการ (อาจ) จัดให้ แต่ไม่มีสภาพเหมือนที่ทำกินเดิม ก่อให้เกิดความลำบากในการดำรงชีวิตต่อไปภายหลังการอพยพออกจากพื้นที่น้ำในเขื่อน (อ่าง) จะท่วมถึง
สถานที่ทำกินใหม่ส่วนใหญ่ไม่มีผืนดินอุดมที่มีคุณภาพทางการเกษตร
ค่าชดเชยการรื้อถอนอาคารบ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่สร้างเขื่อนก็มักจะไม่สมเหตุสมผล ไม่เพียงพอหรือเทียบเท่ากับความสูญเสียที่ประชาชนส่วนน้อยที่จำใจต้องเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่
แต่การสร้าง “อ่างพวง” ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ใช้งบประมาณไม่มาก ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างสั้น สามารถใช้ประโยชน์ในการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ทำประโยชน์ทางการเกษตร การอุปโภคบริโภคได้อย่างรวดเร็ว
“อ่างพวง” สามารถกักเก็บน้ำได้ในปริมาณที่น่าพึงพอใจ โดยกักเก็บรายทางไป ได้ตลอดลำน้ำ ไม่ตั้งอยู่ในที่ใดที่เดียวจนไม่สามารถบริการน้ำทางการเกษตรได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพเหมือน “อ่างพวง” หรือเขื่อนกั้นน้ำขนาดเล็กๆรายทาง
เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำหลากก็สามารถเก็บกักน้ำ ตัดยอดน้ำหลากให้ลดน้อยลงลดหลั่นกันลงไปเป็นระยะๆตามรายทาง ลดภาวะอุทกภัยลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แหล่งน้ำในอ่างพวง หรือเขื่อนขนาดเล็กที่ร้อยเรียง เรียงรายริมสายน้ำ ก็สามารถใช้เป็นแหล่งประมงน้ำจืด เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวที่นิยมธรรมชาติ นิยมการท่องเที่ยวทางน้ำ ก่อให้เกิดกระแสเศรษฐกิจที่ไหลลื่นให้แก่ราษฎรในพื้นที่รอบๆอ่างเก็บน้ำ จากการประกอบอาชีพประมง อาชีพล่องแพ อาชีพโฮมสเตย์ในเรือนแพ อาชีพกีฬาทางน้ำ อาชีพร้านอาหาร ร้านสินค้าโอท็อป สินค้าพื้นบ้านพื้นเมืองในพื้นที่
และสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากอ่างพวง (เขื่อน) เก็บน้ำก็จะกระจายไปในพื้นที่มากมายหลายแห่ง โดยไม่กระจุกตัวอยู่ที่อ่าง (เขื่อน) เก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งใดแห่งเดียว
ความเจริญทางเศรษฐกิจ ความอุดมสมบูรณ์ของสินค้าเกษตรอันเนื่องมา จากอาชีพของชาวบ้านรอบๆอ่างพวง (เขื่อน) เก็บน้ำก็จะขยายตัวออกไปในพื้นที่ต่างๆ สร้างความมั่งคั่งในท้องถิ่นที่ห่างไกลศูนย์กลางความเจริญในเขต ตำบล อำเภอ จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบ้านเมืองในอนาคต
“แก้มลิง” ก็เช่นกันที่มีประโยชน์ไม่ต่างไปจาก “อ่างพวง” และยิ่งใช้งบประมาณยิ่งน้อยกว่า “อ่างพวง” ลงไปอีก แต่ได้ประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่อย่างมหาศาล ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องได้รับความเสียหายจากความรุนแรงของอุทกภัยแล้วยังอำนวยประโยชน์ทางด้านการเกษตร การอาชีพ การท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้อย่างมากมาย
แต่ที่น่าแปลกใจคือ เรื่อง “อ่างพวง” กับ “แก้มลิง” เป็นแนวพระราชดำริของ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” มาเนิ่นนานหลายสิบปี แต่กลับไม่มีส่วนราชการใด? นักการเมืองหน้าไหน? รัฐบาลชุดใด? ใส่ใจที่จะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยให้หายวับไปกับตา
เพราะผลประโยชน์ที่ติดตามมาจากการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ช่างหอมหวานรวยนานบานทะโรค
“เกษตรกรและราษฎรก็ต้องเศร้าโศกกันต่อไป”
***********************
บก.