คนไทยเราเวลาพูดถึงเรื่องการตาย…เรามักจะคิดต่ออีกว่า…ตายแล้วไปไหน ?
คำถามคือ…ไปนรก หรือ ไปสวรรค์
บังเอิญ…ผู้เขียนก็ยังไม่เคยตายจริงๆ คงจะตอบอะไรไม่ได้ว่า…ไปนรก หรือ ไปสวรรค์ นั้นเป็นเช่นไร
แต่วัฒนธรรมของไทยเรามีการพูดถึงเรื่องนรก เรื่องสวรรค์กันออกจะมาก จนเอามาอบรมสั่งสอนกันเป็นเรื่องเป็นราว ฟังดูเคลิ้มไปเลยละ
เมื่อพูดถึงนรก ก็ต้องพูดถึงกระทะทองแดง พูดถึงต้นงิ้ว พูดถึงหอกแหลมคม ที่เหล่ายมทูตเอามาทิ่มมาแทง คนที่ทำบาปไว้ก่อนจะตายไป
ฟังดูก็ออกจะน่าสยดสยองดี !
ส่วนสวรรค์นั้น ฟังดูก็น่าอภิรมย์ เพราะสวรรค์นั้นมีหลายชั้น มีถึง 6 ชั้น เรียกรวมกันว่า… “ฉกามาพจร” มีตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกา ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี และชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
ความเชื่อของไทยเราคือ คนทำความดี ตายไปก็ไปขึ้นสวรรค์…ส่วนคนทำชั่ว ตายไปก็ไปตกนรก ส่วนคนที่ทำทั้งความดี และความชั่ว ก็คงไปตกนรกก่อน แล้วถึงไปขึ้นสวรรค์
คราวนี้เราลองกลับมาพูดถึง หรือมาจินตนาการเมืองนรกดูกันก่อนว่าเป็นเช่นไร คนที่ตกนรกถ้าจะต้องลงกระทะทองแดง ตกแล้วก็คงไม่ตาย เพราะเราตายไปแล้ว แต่มันคงร้อนน่าดู ดังนั้นลงกระทะทองแดงคงจะเป็นเรื่องที่ต้องทนความร้อน แล้วถ้าเกิดต้องลงหลายครั้ง ครั้งต่อๆไปก็คงจะชาชินไปเอง เพราะตกอย่างไรก็ไม่ถึงกับตาย
เมื่อตกลงในกระทะทองแดงหลายครั้งก็จะกลายเป็นคนมีประสบการณ์ ถึงเวลาก็ได้นั่งดูคนที่มาใหม่ มาตกกระทะทองแดง เราก็จะได้เห็นคนตกใหม่ทุรนทุราย ดูกิริยาท่าทางแล้ว คงขำกันดี เป็นที่สนุกสนานเฮฮากันยกใหญ่
พอตกกระทะแล้ว ก็ต้องไปปีนต้นงิ้ว มีคนคอยเอาหอกมาทิ่ม มาแทง แรกๆก็คงเสียว พอโดนหลายครั้งเข้าก็คงเคยชินอีกเช่นกัน
เพราะแทงอย่างไรก็ไม่ถึงกับตาย
เอาเป็นว่า ตกนรกน่าจะตื่นเต้นดี ครึกครื้น เฮฮาได้ทุกวัน เพราะจะได้เห็นอาการท่าทางของ…”สัตว์นรกหน้าใหม่” เพื่อนร่วมตกนรกที่แสดงออกท่าแปลกๆทุกวัน
ยิ่งได้เห็นคนที่เราไม่ชอบขี้หน้าก่อนตายไป เราอาจจะนั่งดูอย่างสมน้ำหน้ามัน
ครับ…กลับไปที่คนขึ้นสวรรค์บ้าง ซึ่งก็มีหลายชั้น แต่ละชั้นก็คงมีอะไรที่ต่างกัน เหล่าบรรดาเทวดาทั้งหลายในแต่ละชั้นคงมีกิจกรรมที่ต่างกันไปด้วย
ที่สวรรค์…เทวดาก็มีหลายระดับ มีทั้งเทวดาชั้นสูง และเทวดาชั้นต่ำ
ผิดกับที่นรก…ถือว่าเป็นสัตว์นรกเหมือนกันหมด เพราะนรกไม่มีหลายชั้น !
เทวดาบางชั้นทำอะไรเองไม่ได้เช่น เทวดาชั้นดุสิต ปรารถนาสิ่งใดก็นึกเอาได้ แต่ถ้าเป็นเทวดาชั้นนิมมานรดี ถ้าต้องการสิ่งใด ก็ไม่ยักกะทำได้เอง ต้องไปตามเทวดาชั้นต่ำกว่ามานึกให้อีกที ดูแล้วก็เหมือนเรียกบ๋อยโรงแรมมาทำให้
สรุปว่าถ้าจะไปเป็นเทวดา ต้องทำบุญให้ถึงขนาด จึงจะได้ไปเกิดในชั้นดีๆ ถ้าทำบุญน้อยอาจอยู่ชั้นต่ำ ยังต้องไปรับใช้เทวดาชั้นสูงด้วยกันอีก
ครับ…ที่เขียนมาทั้งหมดดูออกจะเลอะเทอะ ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่เจตนานั้นอยากให้เห็นเป็นธรรมานุสติแก่คนทั้งหลาย เพราะวันนี้คนที่ไม่มีหิริโอตตัปปะมีมาก เผื่อจะเกรงกลัวต่อบาปกันบ้าง
สังคมจะได้ดีขึ้น อยู่กันเป็นสุขมากขึ้น ลดการเบียดเบียนกันลงไป
หวังเท่านี้จริงๆ
———————————