หัวปลีที่เรากินกันมาตั้งแต่เด็ก กำลังบูมมาก ๆ ในต่างประเทศ เพราะรสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ แต่แคลอรีต่ำ ซ้ำยังเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์
หัวปลี
หัวปลี นับเป็นกระแสอาหารเพื่อสุขภาพที่มาแรงในต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มคนกินมังสวิรัติ เพราะหัวปลีมีเส้นใยเหนียวแน่น ให้รสสัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์ ที่สำคัญหัวปลีมีแคลอรีต่ำมาก คนที่กำลังลดน้ำหนักก็สนใจเทรนด์กินหัวปลีมากเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาหัวปลีในต่างประเทศจะพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละพันบาท ! โอ้โห!…บูมขนาดนี้เราต้องมาอ่านสรรพคุณของหัวปลีสักหน่อยแล้วล่ะค่ะว่าหัวปลีประโยชน์ดีหยั่งไง?
หัวปลี ของดีจากไทยไปไกลถึงเมืองนอก
หัวปลี ภาษาอังกฤษเรียก Banana blossom หรือ Banana flower เพราะหัวปลีเป็นส่วนดอกของต้นกล้วยนั่นเองค่ะ ส่วนในบ้านเราเรียกกันทั้งหัวปลี ปี๋ (เหนือ) และปลีกล้วย แล้วแต่ความถนัดและความเคยชินของท้องถิ่นต่าง ๆ
หัวปลี ลักษณะเป็นอย่างไร
หัวปลีมีรูปทรงคล้ายหยดน้ำ โคนปลีกว้าง ปลายปลีแหลม หัวปลีเป็นส่วนดอกของต้นกล้วยที่ทำหน้าที่ห่อหุ้มกล้วยหลาย ๆ ผลรวมกัน หัวปลีจะผลิกล้วยออกมาหลายหวีจนกระทั่งไม่คายกาบออกมาเป็นกล้วยแล้ว ซึ่งคราวนี้ก็จะเหลือแต่หัวปลีที่มีเนื้อสีขาวภายใน หรือที่เรียกกันว่าปลีกล้วยนั่นแหละ
คุณค่าทางโภชนาการของหัวปลี
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แสดงคุณค่าทางโภชนาการของหัวปลีในปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
– พลังงาน 28 กิโลแคลอรี
– น้ำ 92.3 กรัม
– โปรตีน 1.4 กรัม
– ไขมัน 0.2 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 5.2 กรัม
– กากใยอาหาร 0.8 กรัม
– เถ้า 0.9 กรัม
– แคลเซียม 28 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม
– ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
– วิตามินเอ 26 ไมโครกรัม
– ไทอะมีน 0.01 มิลลิกรัม
– ไรโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
– ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม
– วิตามินซี 25 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของหัวปลี มีดีตรงไหน ?
มาดูสรรพคุณของหัวปลี ของดีจากบ้านเรากันบ้างดีกว่า
- บำรุงเลือด
หัวปลีมีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์หรือคุณแม่หลังคลอดบุตร
- ขับน้ำนม
ด้วยสรรพคุณหัวปลีที่ช่วยบำรุงเลือด ทำให้หัวปลีมีประโยขน์ในการช่วยขับน้ำนมของหญิงหลังคลอดบุตร โดยให้รับประทานเมนูหัวปลีหลังคลอดใหม่ ๆ จะช่วยขับน้ำนมได้ดีมาก
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
การศึกษาในวารสาร Phytoterapy Research เมื่อปี 2000 เผยผลการวิจัยฤทธิ์ของหัวปลีกับการลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยทดลองให้หนูกินหัวปลี 0.15-0.25 กรัมต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ตลอดระยะเวลา 30 วัน ซึ่งพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูลดลง และมีระดับฮีโมโกลบินเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังอยู่ในขอบเขตของสัตว์ทดลองเท่านั้น ส่วนการทดลองในคนยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
- ลดการอักเสบในร่างกาย
ในหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า มีทานอล ซึ่งงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science and Biotechnology เมื่อปี 2010 พบว่า สารสกัดจากหัวปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่อนข้างมาก และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ป้องกันการอักเสบในร่างกายได้
- ประจำเดือนมามาก
หัวปลีช่วยได้ แม้หัวปลีจะมีสรรพคุณบำรุงเลือด แต่สำหรับสาว ๆ ที่ประจำเดือนมามากเกินไป (ต้องใช้ผ้าอนามัยเกิน 5 ชิ้นต่อวัน) หัวปลีจะช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือนให้ได้ค่ะ โดยหัวปลีมีสรรพคุณกระตุ้นร่างกายให้สร้างฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยให้ปริมาณเลือดประจำเดือนที่มามาก มาเกินความจำเป็น ลดน้อยลงไปได้
- ช่วยต้านเศร้า
หัวปลีมีแมกนีเซียม ธาตุอาหารสำคัญที่มีผลรักษาอาการซึมเศร้า ดังนั้นใครรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนซึม ๆ เศร้า ๆ ลองรับประทานหัวปลีสักเมนู
- รักษาโรคกระเพาะ
ยางจากหัวปลีมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยวิธีใช้ให้นำหัวปลีมาเผาแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว ใช้เป็นยาเคลือบกระเพาะก่อนรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง สูตรนี้เป็นยาโบราณ
ข้อควรระวังในการกินหัวปลี
หัวปลีเป็นสมุนไพรที่มีแป้งซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในภายหลัง ดังนั้นคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก็อย่ากินหัวปลีเยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
หัวปลีทำเมนูอาหารอะไรได้บ้าง
สำหรับคนที่คิดเมนูหัวปลีไม่ออก ขอนำเสนอเมนูหัวปลีกินง่าย อร่อยแซ่บ ไม่อ้วนด้วย
– ยำหัวปลีกุ้งสด เมนูยำสูตรโบราณอร่อยแซ่บเครื่องแน่นสไตล์เรา
นอกจากอร่อยแล้ว หัวปลียังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย และยังเป็นอาหารมังสวิรัติที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แคลอรีต่ำ ที่สำคัญรสชาติยังคล้ายเนื้อสัตว์ไม่เบาเลยล่ะค่ะ
ข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ DITP
กองโภชนาการ กรมอนามัย
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ฯ
คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่