การเปิดบ่อนการพนันนั้น เป็นการรวมกลุ่มของผู้เล่นการพนันประเภทต่างๆ โดยมิได้นัดหมาย ผู้เล่นจะรู้กันภายในว่าสถานที่ใดเปิดบ่อนบ้างและสามารถเล่นได้โดยปลอดจากการรบกวนของเจ้าหน้าที่รัฐ หากผู้เปิดรายใดสามารถควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐได้ก็จะกลายเป็นบ่อนที่มีชื่อเสียงและมีผู้เข้าไปเล่นเป็นจำนวนมาก เช่น บ่อนโชคชัย บ่อนเตาปูน บ่อนลอยฟ้า บ่อนบางนา บ่อนเสี่ยถ่อ บ่อนประตูน้ำ บ่อนสีแดง บ่อนตี้พจน์ฝั่งธน บ่อนตี๋ใหญ่ บ่อนพานทอง บ่อนเจ๊ง้อ บ่อนอ๊อตใต้ เป็นต้น
ส่วนมากเรียกว่า “บ่อนส่วนกลาง” โดยมีบ่อนท้องถิ่น เช่น ส่วนจังหวัด ส่วนอำเภอ ส่วนตำบล และส่วนชุมชนอีกเป็นจำนวนมาก ประหนึ่งว่าประเทศไทยเปิดบ่อนเสรีมานมนานแล้ว เพียงแต่รายได้จากการเก็บผลประโยชน์จากบ่อนมิได้เข้ารัฐโดยถูกต้องเท่านั้นเอง
ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยจะเปิดบ่อนเสรีหรือไม่เสรีจึงไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก ซึ่งหากเราคิดแบบง่ายๆ ขนาดไม่เปิดบ่อนเสรีภาครัฐยังควบคุมอะไรไม่ได้ ถ้าหากเปิดบ่อนเสรีภาครัฐจะควบคุมอะไรได้บ้าง
ปัญหาต่างๆ ทางสังคมและชุมชนย่อมเกิดขึ้นอย่างมากมาย
ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของการเปิดบ่อนมีมาอย่างยาวนาน จนไม่อาจสืบค้นได้ว่า เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศใดและใครเป็นคนคิดค้น เพียงแต่มีคนเล่าต่อกันมาจากอดีตว่า ประมาณปี พ.ศ. 1450 มีการเล่นการพนันเรียกว่า “กำถั่ว” และต่อมาประมาณ พ.ศ. 2100 ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีการเล่นการพนันเรียกว่า “โป”
ต่อมาได้ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรบันทึกของ “มองสิเออร์ เดอ ลาลูแบร์” (Monsieur De La Loubere) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประมาณปี พ.ศ. 2230 การเล่นการพนันที่นิยมในยุคนั้นเรียกว่า “ติกแตก” ชาวสยามเรียกว่า “สกา” และมีการเล่นพนันโดยใช้สัตว์ เช่น ไก่ชน จิ้งหรีดหรือปลากัด ควาย ต่อสู้กันเพื่อทายผลแพ้ชนะ
การเล่นพนันที่นิยมมากที่สุดคือ การเล่นถั่วโป เข้ามาครั้งแรกสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณปี 2231 (วิชช์ จีระแพทย์, 2555: 10)
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เริ่มต้นเก็บผลประโยชน์อันเป็นรายได้ของแผ่นดินโดยใช้วิธีการผูกขาด จากการเปิดบ่อนประมูลผู้ให้เงินภาษีสูงเป็นหลัก ผู้ผูกขาดนี้ต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนบานเบิกบุรีรัตน์ ส่วนมากเรียกว่า “ขุนบาน” เช่น โรงบ่อนกำแพงเมืองใกล้สะพานหัน บ่อนหน้าวังบูรพาภิรมย์ บ่อนหน้าประตูสามยอด ได้นำรายได้มาสู่รัฐบาลในสมัยนั้น โดยผลจากการเล่นการพนันเป็นสิ่งที่หาเล่นได้ง่ายและแพร่หลายทั่วไป ก่อให้เกิดปัญหาติดตามมามากมาย เช่น เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม เป็นหนี้สิน ไร้ที่อยู่ที่กิน นักเลงคุมบ่อนและทวงหนี้ เป็นต้น (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, 2542)
ต่อมาระบบอากรบ่อนพนันกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่สุดของรัฐบาลเป็นเวลานานกว่า 80 ปี จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงประสงค์ให้เลิกอากรบ่อนพนัน แต่ทรงเกรงว่ารัฐบาลจะไม่อาจหารายได้มาทดแทนได้ จึงเพียงแต่จำกัดการเล่นการพนัน และต่อมาได้ถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2459 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) (ผาสุก พงษ์ไพจิตร และคณะ, 2543)
ในปัจจุบันการเปิดบ่อนเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย การเปิดบ่อนจึงอาศัยอำนาจของผู้มีอิทธิพล อาจเปิดบ่อนด้วยตนเองหรือเป็นผู้ดูแลหรือเป็นผู้คอยให้การช่วยเหลือเมื่อถูกดำเนินคดี ผลประโยชน์ขึ้นอยู่ว่าเป็นบ่อนขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก
แนวคิดการเปิดบ่อนเสรีหรือบ่อนถูกกฎหมาย รวมถึงสถานบันเทิงครบวงจร โดยพรรคเพื่อไทยกำลังผลักดันอย่างเต็มที่ มีแนวโน้มที่มีนักการเมืองเห็นด้วยและสนับสนุนให้เกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคต ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตั้งสถานกาสิโน และการพนันพื้นบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการลดการเก็บส่วยพนัน จากบ่อนพนันผิดกฎหมาย เพื่อการเก็บเงินรายได้เข้ารัฐ รวมไปถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศที่สร้างรายได้มหาศาล ผลการศึกษาพบว่า (MGRONLINE, 2567)
- ด้านผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการมีสถานบันเทิงครบวงจร โดยศึกษาถึงผลกระทบในภาพรวม ทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่จะส่งผลต่อนโยบายของการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา และด้านศาสนาและจริยธรรม จากการมีสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย
- ด้านโครงสร้างทางธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและการเก็บรายได้เข้ารัฐ การศึกษาถึงโครงสร้างทางธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันกันสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาตต่างๆ จากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือสถานบันเทิงที่มีสถานกาสิโนรวมอยู่ด้วย เพื่อนำมาเป็นรายได้เข้ารัฐ สำหรับนำไปขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ต่อไป
- ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร การศึกษาถึงรูปแบบ วิธีการ รวมถึงระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง สถานประกอบการ ตลอดจนการเล่นการพนันที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาหรือแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย หรือยกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพการณ์ และบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำพรรคการเมืองได้นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหารือกันในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสภาต่อไป
แสดงให้เห็นว่าการเปิดบ่อนเสรีอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ ทำให้เกิดคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างกันของประชาชนเป็นจำนวนมาก อาจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากการเปิดบ่อน กับกลุ่มที่ได้รับผลลัพธ์ร้ายหรือมองเห็นผลร้ายจากการเปิดบ่อน
ดังนั้นเมื่อโลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน พฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยน และอื่นๆ เปลี่ยน รัฐบาลจึงเป็นผู้เลือกและชั่งน้ำหนักว่าสิ่งที่ได้กับสิ่งที่เสีย สิ่งไหนมีสำคัญกว่ากัน หรือสิ่งเหล่านี้ควรเป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะเป็นผู้เลือกและตัดสินใจ หากประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง สวัสดีครับ
*******************
ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี
ประธานหลักสูตรนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา