เกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดนครสวรรค์อัดใบอ้อยส่งขายสร้างรายได้ภายหลังจังหวัดประกาศห้ามเผาเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย เผยสร้างรายได้เพิ่มและช่วยลดค่าฝุ่นPM2.5
รายงานข่าวแจ้งว่าเกษตรกรชาวไร่อ้อยหลายรายในจังหวัดนครสวรรค์ต้องตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานหลังจากที่ทางจังหวัดนครสวรรค์มีประกาศห้ามเผาระหว่างวันที่ 17 ม.ค. – 31 พ.ค.2568 และผู้ที่มีประวัติการเผา พื้นที่การเกษตรจะหมดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ทุกโครงการ เป็นระยะเวลา 2 ปี ในขณะเดียวกันก็เร่งอัดใบอ้อยส่งขายแหล่งรับซื้อเพื่อเป็นทุนสร้างรายได้ในการทำไร่อ้อยในฤดูกาลถัดไป
นางเชาวนีย์ ขุนณรงค์ ชาวไร่อ้อยตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์เปิดเผยว่าในขณะนี้ชาวไร่อ้อยทราบดีถึงมาตรการของทางภาครัฐในกรณีห้ามเผาอ้อยก่อนตัดส่งเข้าโรงงานน้ำตาล และส่วนใหญ่ยินดีร่วมมือกับทางราชการในการงดเผาอ้อยเพื่อขอรับสิทธิความช่วยเหลือด้านอื่นๆจากรัฐบาล ซึ่งการตัดอ้อยสดนอกจากจะช่วยลดมลพิษในอากาศโดยเฉพาะค่าฝุ่น pm 2.5 แล้วยังเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรเพราะราคาอ้อยที่ไม่ถูกหักและยังสามารถขายใบอ้อยที่เหลืออยู่ในไร่ โดยขายเหมารวมในราคาไร่ละ 50 บาท แต่ถ้าเกษตรกรนำใบอ้อยไปขายถึงโรงงานก็จะได้ราคาตันละ 700 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีกว่าขายอ้อยไฟไหม้
ล่าสุดจังหวัดนครสวรรค์ยังมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ที่ 49.4 มคก./ลบ.ม.มีผลกระทบต่อสุขภาพ และแนะนำให้ประชาชนใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่นหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
…………………………………………………..