การประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ นั้นถือว่าเป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ความสะดวกสบาย ความคล่องตัว และความรวดเร็วในการใช้ชีวิตหรือการทำงาน เช่น การผลิตรถจักรยานหรือรถยนต์หรือเครื่องบินเพื่อความรวดเร็วในการเดิน การผลิตไฟฟ้าเพื่อต้องการความสว่างในเวลากลางคืน การผลิตนาฬิกาเพื่อดูเวลาหรือนัดพบให้ตรงกัน การผลิตวิทยุเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารระยะไกล เป็นต้น จนถึงปัจจุบันสิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์จึงมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มนุษย์ทุกคนก็ยังไม่หยุดที่จะคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นตลอดเวลา เพียงแต่สังคมปัจจุบันมนุษย์มีภารกิจประจำวันมากขึ้น จึงไม่มีเวลาที่นั่งคิดประดิษฐ์อะไรมากนักและมีสิ่งประดิษฐ์เป็นจำนวนมากที่มีคนอื่นประดิษฐ์ไว้แล้ว ประกอบกับการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ในปัจจุบันต้องใช้ทุนทรัพย์ในการซื้อวัตถุมาทำการทดลองและต้องผ่านการควบคุมตามกฎหมายและมาตรฐานต่างๆ จึงทำให้สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ในปัจจุบันทำได้ยากมากขึ้น แต่ปัจจุบันการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ นั้นมีกฎหมายคุ้มครองการเป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์และเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งของผู้ประดิษฐ์ สามารถซื้อขายจำหน่ายได้เหมือนทรัพย์สินทั่วไป อยู่ที่สิ่งประดิษฐ์นั้นมีคุณค่ามากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ จะทำให้ผู้ประดิษฐ์มีความสุขและมีความภาคภูมิใจเสมอ ซึ่งการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายดังต่อไปนี้
พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 เป็นการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อส่งเสริมให้มีการค้นคว้า วิจัย และประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใดขึ้นใหม่และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นการก้าวหน้าทางเทคนิคในเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชย์กรรมในประเทศ และเพื่อให้ผู้ประดิษฐ์และผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ได้รับการคุ้มครองการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยห้ามมิให้บุคคลอื่นลอกหรือเลียนการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์นี้โดยมิให้ค่าตอบแทน
การประดิษฐ์ หมายความว่า “การคิดค้นหรือคิดทำขึ้น อันเป็นผลให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใดขึ้นใหม่ หรือการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ดีขึ้นซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธี”
สิทธิบัตร หมายความว่า “หนังสือสำคัญที่ออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติสิทธิบัตร”
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Invention Patent) หมายถึง “การให้ความคุ้มครองการคิดค้นที่เกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบโครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรรมวิธีในการผลิตการเก็บรักษา หรือการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์” เป็นการคุ้มครองการคิดค้นสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ (Invention)” มี 3 กรณีดังนี้ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์)
- เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ได้แก่ การประดิษฐ์ที่ไม่เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้ว ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่เคยมีใช้แพร่หลาย ไม่เคยมีจำหน่าย หรือยังไม่เคยได้รับสิทธิบัตรมาก่อน และยังไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญมาก่อนทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยโดยการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์หรือวิทยุ การนำรายละเอียดหรือบทความเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ไปลงในหนังสือต่างๆ หรือการนำสิ่งประดิษฐ์ออกแสดงในงานนิทรรศการต่าง ๆ
สิ่งประดิษฐ์ที่ใหม่หรือมีความใหม่ หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบหรือเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของงานที่มีปรากฏอยู่แล้ว ทั้งนี้ งานที่มีปรากฏอยู่แล้ว หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย มีการเปิดเผยหรือเผยแพร่สาระสำคัญสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรแล้ว สิ่งประดิษฐ์ที่อยู่ระหว่างการยื่นขอรับสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ที่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรและผู้ขอได้ละทิ้งคำขอแล้ว หรือแม้กระทั่งสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรแต่ได้นำออกแสดงหรือเผยแพร่แล้ว ทั้งนี้การจะถือว่าสิ่งประดิษฐ์ใดใหม่หรือมีความใหม่นั้น สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวจะต้องไม่เคยปรากฏ ณ ที่แห่งใดในโลก
ผู้ยื่นจดสิทธิบัตรต้องตรวจสอบว่าการประดิษฐ์นั้นไม่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกับสิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ วารสาร นิตยสาร หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ การตรวจสอบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสิ่งประดิษฐ์ที่กำลังยื่นจดเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และผู้ยื่นจดสิทธิบัตรต้องไม่เปิดเผยรายละเอียดหรือสาระสำคัญของสิ่งประดิษฐ์ก่อนวันที่ยื่นจดสิทธิบัตร เช่น การเผยแพร่ในงานประชุม สัมมนา สิ่งพิมพ์ หรือผ่านสื่อออนไลน์ (IDG Summary, 2568)
- เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นตอนการประดิษฐ์สูงขึ้น ได้แก่ การประดิษฐ์ที่ไม่เป็นที่ประจักษ์โดยง่ายแก่บุคคลที่มีความชำนาญในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น ต้องแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างเพียงพอในแง่ของความใหม่ล่าสุดก่อนที่จะมีการผลิต มีลักษณะที่เป็นการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของสิ่งประดิษฐ์ประเภทเดียวกันที่มีมาก่อน และไม่เป็นการประดิษฐ์ที่อาจทำได้โดยง่ายโดยผู้ที่มีความรู้ในระดับธรรมดาสามัญในสาขาวิชาการด้านนั้นๆ ทั้งนี้ การเปลี่ยนขนาดของสิ่งประดิษฐ์ การทำให้สิ่งประดิษฐ์สามารถพกพาได้ การปรับทิศทางของชิ้นส่วนการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ หรือแม้กระทั่งการหาชิ้นส่วนทดแทนของเดิมหรือเพื่อทำหน้าที่เดิม
การประดิษฐ์นั้นต้องมีลักษณะที่ก้าวหน้ากว่าสิ่งที่มีอยู่แล้วในตลาด เพื่อยืนยันว่าเป็นการคิดค้นใหม่ที่มีความซับซ้อนสูงขึ้น การยื่นขอจดสิทธิบัตรอาจต้องอ้างอิงผลการทดสอบ ผลการวิจัย หรือการสืบค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ (prior arts) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและความก้าวหน้าทางเทคนิคของสิ่งประดิษฐ์ที่กำลังยื่นขอสิทธิบัตร (IDG Summary, 2568)
- เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรม ได้แก่ การประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการผลิตทางอุตสาหกรรม รวมทั้งหัตถกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรม คือ สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวจะต้องสามารถผลิตได้จริงหรือนำไปใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือหัตถกรรมได้ ไม่ว่าจะในรูปของเครื่องมือหรืออุปกรณ์ของผลิตภัณฑ์ เช่น วัสดุหรือสารใหม่หรือกระบวนการทางอุตสาหกรรม หรือวิธีการปฏิบัติการ มิใช่เป็นเพียงแนวคิด ทฤษฎี หรือปรากฏการณ์
ต้องมีความสามารถในการนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งได้ และต้องไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามหรือเป็นอันตรายต่อประชากรหรือประเทศชาติ เช่น อาวุธชีวเคมีหรืออุปกรณ์ในการขโมยข้อมูลจากบัตรเครดิต ทั้งนี้การประดิษฐ์ที่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ในประเทศไทยรวมถึง จุลชีพที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้นไม้ สัตว์ กฎหรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ฐานข้อมูล โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และวิธีการวินิจฉัยหรือการรักษาโรคในมนุษย์และสัตว์ (IDG Summary, 2568)
เหตุผลในการให้ความคุ้มครองสิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีดังนี้ (ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ, TUIPI)
- 1. เป็นการคุ้มครองสิทธิอันชอบธรรมของผู้ประดิษฐ์ เนื่องจากผู้ประดิษฐ์ได้ใช้สติปัญญาและความพยายามของตนรวมทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่จะมีประโยชน์แก่มนุษย์ ดังนั้น หากการคิดค้นดังกล่าวสามารถทำให้เกิดผลตอบแทนในทางเศรษฐกิจหรือในเชิงพาณิชย์ได้ ก็ควรถือเป็นสิทธิของผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่รัฐควรให้ความคุ้มครอง
- 2. เป็นการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้ประดิษฐ์ เนื่องจากผลงานที่คิดค้นขึ้นทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สังคมก็ควรให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้สร้างคุณประโยชน์ดังกล่าว โดยการให้ความคุ้มครองป้องกันมิให้ผู้อื่นแสวงหาประโยชน์จากผลงานดังกล่าวนั้นโดยมิชอบ
- 3. เพื่อจูงใจให้มีการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ขึ้น เนื่องจากการประดิษฐ์คิดค้นจะต้องมีการลงทุนทั้งในด้านค่าใช้จ่าย เวลา และสติปัญญาอันพิเศษของมนุษย์ แต่เมื่อมีการเปิดเผยสาระสำคัญในการประดิษฐ์คิดค้น หรือมีการผลิตเป็นสินค้าเพื่อออกจำหน่ายแล้ว บุคคลอื่นสามารถลอกเลียนแบบได้โดยง่าย ดังนั้น จึงจำเป็นที่รัฐต้องให้ความคุ้มครอง อันจะเป็นการกระตุ้นให้นักประดิษฐ์คิดค้นมีกำลังใจ และมีความมั่นใจในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
- เพื่อกระตุ้นให้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆ ในการให้ความคุ้มครองนี้ ได้กำหนดให้มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการประดิษฐ์คิดค้นนั้นๆ จนทำให้สามารถนำไปศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาต่อไป เพื่อส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงขึ้น
- เพื่อจูงใจให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศ การจัดระบบให้มีการคุ้มครองสิทธิบัตรย่อมทำให้เจ้าของเทคโนโลยีจากต่างประเทศมีความมั่นใจในการลงทุนหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ร่วมทุนในประเทศ
บทลงโทษการละเมิดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ (ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา, IPOP)
มาตรา 85 บุคคลใดกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 36 (ผลิต ใช้ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย นำเข้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตร หรือ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตร) หรือมาตรา 63 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิบัตร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อยกเว้นการละเมิดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ (ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา, IPOP)
- การกระทำใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง หรือวิจัย ทั้งนี้ ต้องไม่ขัดต่อการใช้ประโยชน์ตามปกติของผู้ทรงสิทธิบัตร และไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อประโยชน์อันชอบธรรมของผู้ทรงสิทธิบัตรเกินสมควร
- การผลิตผลิตภัณฑ์หรือใช้กรรมวิธีดังที่ผู้ทรงสิทธิบัตรได้จด ทะเบียนไว้ ซึ่งผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หรือผู้ใช้กรรมวิธีดังกล่าวได้ประกอบกิจการหรือมีเครื่องมือ เครื่องใช้เพื่อประกอบกิจการดังกล่าวโดยสุจริตก่อนวันยื่นขอรับสิทธิบัตรในราชอาณาจักร โดยผู้ผลิตหรือผู้ใช้ กรรมวิธีไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ถึงการจดทะเบียนนั้น ทั้งนี้ โดยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๙ ทวิ
- การเตรียมยาเฉพาะรายตามใบสั่งแพทย์ โดยผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ รวมทั้งการกระทำต่อผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าว
- การกระทำใด ๆ เกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนยา โดยผู้ขอมีวัตถุประสงค์ที่จะผลิต จำหน่าย หรือนำเข้าซึ่งผลิตภัณฑ์ยาตามสิทธิบัตร หลังจากสิทธิบัตร ดังกล่าวสิ้นอายุลง
- การใช้อุปกรณ์ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับตัวเรือ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อื่นของเรือของประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิบัตรซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ในกรณีที่เรือดังกล่าวได้เข้า มาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวหรือโดยอุบัติเหตุ และจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกับเรือนั้น
- การใช้อุปกรณ์ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับ การสร้างการทำงาน หรืออุปกรณ์อื่นของอากาศยาน หรือยานพาหนะของประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิบัตรซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ในกรณีที่อากาศยานหรือยานพาหนะดังกล่าวได้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวหรือโดยอุบัติเหตุ
- การใช้ ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตร หากผู้ทรงสิทธิบัตรได้อนุญาต หรือยินยอมให้ผลิต หรือขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว
แสดงให้เห็นว่าการประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ นั้นในปัจจุบันแตกต่างจากสมัยอดีตเป็นอย่างมาก ใช่ว่าอยากจะคิดอะไรก็คิด อยากจะทำอะไรก็ทำอย่างสมัยอดีต ผู้ประดิษฐ์จะต้องศึกษาประวัติความเป็นมา กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือมาตรฐานต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่จะประดิษฐ์อย่างระเอียด สวัสดีครับ
ผศ.ปองปรีดา ทองมาดี
(ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต)