ร่องพายุโซนร้อน,ร่องมรสุม พาดผ่านภาคเหนือ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อความเสียหายให้จังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ ฯลฯ อย่างฉับพลัน
6-8 กันยายน พายุยางิกระหน่ำเวียดนาม ทำให้ภาคเหนือตอนบนฯลฯ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
9-12 กันยายน ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนภาคเหนือของประเทศไทยแต่อ่อนตัวลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักในบางพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัยเมืองไทยในห้วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง? ทุกท่านที่ติดตามความคืบหน้าของข่าว “น้ำท่วมเมืองไทย” ย่อมประจักษ์แก่ใจและสายตาไปแล้ว
ปราชญ์ด้าน “น้ำ” บางคนของไทยชี้ขุมทรัพย์เอาไว้ว่า “ถ้าทางราชการสนองพระราชดำริ” ของ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ด้วยการสร้างแก้มลิงเพื่อแบ่งน้ำหลากจาก แม่น้ำในภาคเหนือทุกสายตั้งแต่ต้นน้ำลงมาถึงปากน้ำโพ
ปริมาณน้ำจะไม่ล้นฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมจังหวัดที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อุทัยธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ดั่งเช่นที่เป็นมาซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่า
ยิ่งถ้าทางราชการขุดลอกท้องน้ำทุกสายในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ให้ลึกล้ำ ขยายลำน้ำให้กว้างขึ้นในกรณีที่ขยายได้ ก็จะสามารถลดความสูงของระดับน้ำลงมามากมาย น้ำก็จะไม่ล้นตลิ่งท่วมบ้านท่วมเมืองเหมือนทุกคราที่พายุโซนร้อน พายุไต้ฝุ่นพาดผ่านหรือแผ่อิทธิพลมาถึงเมืองไทยโดยเฉพาะในภาคเหนือ
แต่สังคมไทยไม่ค่อยจะปรากฏภาพ “เรือขุด” เพื่อขุดลอกท้องแม่น้ำ ท้องคลอง ท้องลำธาร ทั่วเมืองไทยมาแสนนาน ทั้งที่สถานการณ์ท้องคลอง ท้องแม่น้ำ ตื้นเขินยังทวีขึ้นทุกนาที ทุกปี นับสิบปี นับหลายสิบปี ทำให้แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง ตื้นเขินขึ้นทุกนาทีทุกชั่วโมง
ปริมาณกักเก็บน้ำในแม่น้ำลำคลอง หนอง บึง จึงเอ่อท้นล้นแหล่งน้ำออกไปท่วมพื้นที่เกษตร พื้นที่เขตเมืองที่อยู่อาศัยของประชาชน จนก่อให้เกิดความเสียหายระดับสิ้นเนื้อประดาตัวเนืองๆ
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่สนใจการขุดลอกท้องน้ำให้ลึกลงเพื่อเก็บน้ำให้ได้ปริมาณมากๆ แต่นิยมชมชอบการก่อสร้างเขื่อนหรือกำแพงป้องกันน้ำท่วม ซึ่งบีบน้ำและยกระดับมวลน้ำให้สูงขึ้นๆๆ ไม่มีที่สิ้นสุดและสิ้นเปลืองงบประมาณหนักกว่าการขุดลอกท้องน้ำให้ลึกลงนับสิบนับร้อยเท่า
เมื่อกำแพงที่ยิ่งสูงๆๆ พังทลายลง สถานการณ์อุทกภัยยิ่งร้ายแรงหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าสถานการณ์อุทกภัยปกติธรรมดา
ความฉ้อฉลจากการมุ่งสร้างเขื่อนหรือกำแพงป้องกันน้ำท่วมได้ประโยชน์ด้านเม็ดเงินเร็วกว่าและมากกว่าการขุดลอกท้องน้ำ
การสร้างแก้มลิงกับการขุดลอกแม่น้ำลำคลอง จึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจของบรรดาข้าราชการและนักการเมืองของไทยมาเกือบ 100 ปี….จนถึงวันนี้ ! ! ! #
บก.
