เชื่อว่าหลายๆ คน คงเคยได้ยินคำว่า ให้มองโลกในแง่บวกกันมามากแล้ว การมองโลกในแง่บวกส่งผลดีหลายๆ อย่างต่อสุขภาพของจิตใจเรา คนเราจะมีกำลังในการต่อสู้กับปัญหาและดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างดี เพราะพวกเขามีความหวัง และความหวังนั้นก็เกิดจากการคิดบวกนั่นเอง
เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ปกติ ชีวิตไม่ได้ประสบปัญหาอะไร การคิดบวกก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อใดก็ตามที่เรากำลังเผชิญกับบททดสอบในชีวิต มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นกับเรามากมาย จนทำให้เราเซและล้มลง การคิดบวกดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะสามารถทำได้อีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชีวิตเราจะกำลังเผชิญปัญหามากมายแค่ไหน เรายังคงสามารถคิดบวกได้ วันนี้มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณสามารถคงความคิดเป็นบวกได้อยู่ เมื่อเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก มาฝากกันทั้งหมด 12 ข้อ
- พยายามมองหาข้อดีในเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมันจะมีสองด้านเสมอ เพียงแต่ว่าเราจะตีความอย่างไร ตัวอย่างเช่น การที่เราถูกคนรักทิ้งเราไป เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่อันที่จริงแล้วถ้าเราพยายามมองถึงข้อดีที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นี้ มันอาจจะเป็นเวลาที่เราจะได้กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง ค้นพบในสิ่งที่เราชอบ ตัวตนของตัวเองอย่างแท้จริงและปฏิวัติชีวิตใหม่ เพื่อให้เราเป็นคนที่มีศักยภาพสูงที่สุดก็ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวเลวร้ายแค่ไหนในชีวิตเรา ให้ถามตัวเองว่า เราได้อะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเราจากเรื่องนี้
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นบวก
คนที่อยู่รอบตัวเรามีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดความรู้สึกของเรา ดังนั้นการเลือกคบคนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรที่จะเลือกคบคนที่มีความคิดเป็นบวกมีความคิดก้าวหน้าที่จะนำพาชีวิตเราไปในทิศทางที่ดี นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสื่อต่าง ๆ ที่เราเสพ ถามตัวเองว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราเสพนั้นมีผลดีอย่างไรกับชีวิตเรา ถ้าหากมันทำให้เรามีความคิดลบ ๆ ก็ปิดช่องทางการรับสื่อนั้น ๆ เสีย
- ใช้ชีวิตให้ช้าลง
บางครั้งในการที่เราทำอะไรเร็วเกินไป เราอาจจะตัดสินใจผิดพลาด ใช้สัญชาตญาณมากกว่าสติ เพื่อพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจ การที่เราใช้ชีวิตให้ช้าลงสักหน่อย จะช่วยทำให้ทั้งใจและกายของเราสงบลงเช่นกัน
- อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
ในบางครั้งเราเอาทุกเรื่องมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป ผู้เขียนเคยอ่านในหนังสือเรื่อง the magic of thinking big ซึ่งมีตอนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ให้เราถามตัวเองว่า เรื่องนี้มันมีความสำคัญกับเราขนาดนั้นจริง ๆ ก่อนที่เราจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับสิ่งนั้น ให้เราโฟกัสไปที่เป้าหมายที่เราต้องการ แทนที่จะใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ตัวอย่างเช่น เราต้องการที่จะได้สัญญาที่ลูกน้องลงนาม แต่กว่าที่จะได้มาต้องผ่านการติดต่อประสานงานกับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด แทนที่จะเอาเรื่องนั้น ๆ มาใส่ใจ และคิดต่อไปต่าง ๆ นานา ให้โฟกัสในจุดประสงค์และเป้าหมายที่เราต้องการจะได้สิ่งนั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็พยายามอย่าเก็บมันเอามาใส่ใจให้มากนัก เป็นต้น
- คิดดีและทำดีกับคนอื่น
หากเรายิ้มให้คนอื่นเขาก็จะยิ้มกลับให้เรา คิดกับคนอื่นในแง่ดีเสมอ ๆ และสิ่งดี ๆ ก็จะกลับมาสู่ตัวเราเช่นกัน
- ใช้ชีวิตที่ดี
การใช้ชีวิตที่ดีคือการดูแลเอาใจใส่ทั้งสุขภาพกายและใจ โดยการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ หากเราสามารถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีไว้ได้แล้ว ความรู้สึกหงุดหงิด ขุ่นข้องหมองใจ ก็จะลดน้อยลงไปด้วย
- เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์
คนเราหนีไม่พ้นคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น ซึ่งบ่อยครั้งอาจทำให้เรารู้สึกไม่ดี เราควรเรียนรู้ที่จะรับมือกับมัน โดยการพิจารณาว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มันจะช่วยให้เราปรับปรุงตัวเราให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้หรือไม่ หากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น ๆ ไม่เป็นความจริง ก็ให้ทำความเข้าใจว่า คนที่พูด เขาอาจจะอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ ก็อย่าไปเอาเรื่องราว นั้น ๆ มาใส่ใจให้มากมายนัก
- เริ่มต้นวันใหม่ด้วยใจที่เป็นบวก
ในแต่ละวันการเริ่มต้นวันใหม่โดยนำพลังงานบวกเข้าตัว เป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการ นั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจปลอดโปร่ง วางแผนการทำงานในแต่ละวัน รับประทานอาหารเช้าที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น ซึ่งการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ จะช่วยให้วันนั้นของคุณเป็นวันที่ดี มากกว่าจะเริ่มต้นด้วยความหงุดหงิด ขุ่นข้องหมองใจ
- ฝึกเจริญสติตลอดทั้งวัน
การที่เราสามารถรู้เท่าทันความคิดความรู้สึกของเรา จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตไปในทางที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวเรามีความสามารถในการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เหนืออารมณ์ความรู้สึกชั่วคราวที่เกิดขึ้นกับเรา
- โฟกัสในเรื่องราวดีๆ
ในแต่ละวันมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการเกิดขึ้นเสมอ ๆ แทนที่เราจะไปโฟกัสกับเรื่องราวที่ไม่ได้ดั่งใจ ให้เราโฟกัสและรู้สึกขอบคุณกับเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของเราแทน
11.สร้างอารมณ์ขันกับเรื่องราวแย่ๆ ที่เกิดขึ้น
บางครั้งการมองเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เป็นเรื่องตลกก็สามารถช่วยเราได้มาก ไม่ว่าเหตุการณ์ใดก็ตามหากเราผ่านไปได้ เมื่อเรามองย้อนกลับไปมันอาจจะเป็นแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้นก็ได้
- เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้น
สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้วสิ่งนั้นดีเสมอ ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นเพื่อนำพาตัวเราไปยังจุดที่สูงที่สุดเสมอ เพียงแต่ว่าเราจะสามารถเรียนรู้และจัดการกับมันได้หรือไม่ ดังนั้นหากเรากำลังประสบกับปัญหา แทนที่จะนั่งก่นด่าโทษโชคชะตาหรือสิ่งรอบตัว ให้เราจัดการกับปัญหาด้วยสติปัญญาและเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้เราสามารถจัดการกับชีวิตของเราให้ดีขึ้นต่อไปในวันข้างหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.istrong.co/single-post/positive-thinking?srsltid=AfmBOop3d9VQAzsW3ejnUxCutDqIMF25rxOxHUz4Hj3NZn1l3KabGA75