- ตอน : หนุ่มนักพนันกับ “นางฟ้า…ตกสวรรค์”
สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ระหว่างปี 2519 – 2523 ผมอาศัยบ้านของน้าชาย-น้าสะใภ้ ซึ่งอยู่ในซอยจุฬาเกษม ชายเขตเมืองนนทบุรีค่อนมา ทางตะวันออก เกือบๆจะเกยกับแนวเขตบางเขนของนครหลวงกรุงเทพธนบุรี
ห้องนอนของผมมีหน้าต่าง 2 ด้าน ด้านหนึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกเป็นด้านประตูรั้วด้านหน้าของบ้าน อีกด้านหนึ่งอยู่ด้านเหนือของบ้าน รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่หนาวเย็นในฤดูหนาว ชื่นฉ่ำเย็นทรวงด้วยสายลม ด้วยทิวทัศน์ฝั่งถนนสายมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์-แคราย และบ้านทรงสเปญที่อยู่ระหว่างบ้านของน้าชายของผมกับถนนใหญ่ที่เด่นเก๋เท่สวยกว่าอาคารบ้านเรือนและตึกรามบ้านช่องหลังใดๆในละแวกนั้น
ที่สำคัญคือชายหนุ่มหล่อร่างใหญ่ แต่งกายหรูหรา ท่าทางสมาร์ทแบบชาวกรุง เจ้าของบ้านทรงสเปญ กับภรรยาสาวชาวกรุงที่สวยราวนางฟ้า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในแต่ละวัน สวยงามอร่ามตาแทบไม่ซ้ำกัน
เธอมีใบหน้าขาวราวกับไข่ปอก เขียนคิ้ว ทาปากแดง ขนตางอนเช้ง เดินนวยนาดอยู่แถวๆหน้าบ้านทั้งเช้า-เย็น โดยเฉพาะในยามที่ผมเดินออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถเมล์ไปมหา’ลัยฯในตอนเช้า และตอนผมกลับเข้าบ้านในยามเย็น,ยามค่ำ “นางฟ้า” ของผมจะปรากฏกายอยู่บนถนนในซอย ทั้งเดินเล่น เดินไปคุยกับเพื่อนบ้าน หรือเดินเล่นกับลูกสาวตัวน้อยๆวัย 4 – 5 ขวบ
เธอเป็นขวัญตาขวัญใจกับหัวใจดวงน้อยๆของ “หนุ่มนักศึกษาคนนี้” ที่แอบมองเธออยู่ด้วยความชื่นชมทุกวัน ซึ่งไม่ใช่จะมีแต่ผมคนเดียว แต่ยังมีชายหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อีกมากหน้าหลายตาที่มีอาการกิริยาอาการเหมือนหมาแอบมองเครื่องบินไม่ต่างจากผม……ฮา!
แต่เธอก็ไม่เคยชายตามองชายใดนอกจากสามีหนุ่มหล่อของเธอ ซึ่งขับรถเก๋งซีตรองหน้ากบที่ราคาแพงระยับในยุคนั้น ซึ่งออกจากบ้านทุกเช้าและกลับเข้าบ้านตอนดึกดื่นเที่ยงคืนแทบทุกวัน โดยผมและเพื่อนบ้านไม่เคยทราบว่าหนุ่มหล่อทำงานอะไร รู้แต่ ว่าภรรยา(นางฟ้า) เป็น“คหปตานี” (หญิงผู้เป็นเจ้าบ้าน,ภรรยาคหบดี)
เธออยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เพียงเดินทางรับ-ส่งลูกสาวไปโรงเรียนอนุบาลด้วย รถยนต์คันเล็กๆแต่หรูไม่แพ้รถเก๋งของสามี แล้วกลับมาอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนต่อเพื่อจะ ออกมาหว่านโปรยความงามไปรอบๆบ้านทั่วๆซอยในตอนเย็นย่ำค่ำลงอีกรอบหนึ่ง
ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะหนังสือที่หน้าต่างห้องนอนด้านเหนือทุกค่ำคืน ทั้งเพียรเฝ้าแอบมองข้ามสนามหญ้าของบ้านเถ้าแก่ร้านประดับยนต์ ที่คั่นอยู่ระหว่างบ้านของน้าชายกับบ้านของ “นางฟ้า” เพื่อแอบชื่นชมรูปโฉมโนมพรรณและอากัปกิริยาของนางฟ้า ลูกสาวกับสามีหนุ่มหล่อในบางโอกาสที่สถานการณ์เอื้ออำนวย
ช่วงเวลา 2 – 3 ปีแรก ชีวิต(รัก)ของหนุ่มหล่อ สาวสวยลูก 1 เจ้าของบ้านทรงสเปญ รถเก๋งซีตรองหน้ากบสีเทาเข้ม กับลูกสาววัยน่ารัก ดำเนินไปท่ามกลางสายตาที่อิจฉาในความรวย ความสวย ความหล่อ ความน่ารักของมวลสมาชิกในบ้านทรงสเปญหลังนี้ เหมือนผมที่ทั้งอิจฉาและชื่นชมในวิถีชีวิตคู่ของหนุ่มใหญ่และนางฟ้าคู่นี้
ย่างเข้าปีที่ 3 การออกจากบ้านของหนุ่มหล่อตรงเวลา แต่เวลากลับเริ่มไม่ แน่นอน กิริยาอาการตอนลงจากรถยนต์ก่อนเข้าบ้านเริ่มมีอาการโซเซ
ภรรยา” นางฟ้า” ที่เคยออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ด้วยการคล้องแขนอย่างชื่นมื่นเริ่มมีกิริยามึนตึงขึ้น เสียงพูดคุยทักทายที่ไม่เคยได้ยินถึงบ้านอื่น เริ่มดังข้ามถนน ข้ามรั้วบ้าน ข้ามสนามหญ้าหน้าบ้านเถ้าแก่มาถึงกกหูของผมผู้พยายามเงี่ยหูฟังอย่างตั้งอก ตั้งใจ…..ฮา!
เสียงลูกสาวตัวน้อยที่เคยส่งเสียงดีอกดีใจตอนคุณพ่อกลับเข้าบ้าน กลับกลายเป็น เสียงร้องไห้หรือเสียงหวีดร้อง เพราะพ่อแม่คุยกันด้วยเสียงดังผิดปกติและมีอาการยื้อยุด ฉุดกระชากกันบ้างเป็นครั้งคราว จนกระทั่งระยะหลังลูกสาวตัวน้อยไม่เคยวิ่งออกมารับ พ่อ เพราะพ่อกับแม่ทะเลาะกันรุนแรงและมีการลงไม้ลงมือกันบริเวณหน้าบ้าน โดยมีสายตาเพื่อนบ้านแอบมองด้วยอารมณ์ที่ต่างกันไปตามฐานานุรูป
บางวัน”นางฟ้า”เดินตาบวมออกมาที่รถตอนไปส่งลูกที่โรงเรียน บางวันเธอ แต่งหน้าเข้มจัด และเมื่อแอบสังเกตจึงรู้ว่าเธอพยายามใช้เครื่องสำอางปกปิดริ้วรอยช้ำ รอบๆตาหรือตามใบหน้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวหนักขึ้นทุกวันๆ
หลายครั้ง “หนุ่มหล่อ” ไม่กลับเข้าบ้านจนรุ่งเช้าแล้วการทะเลาะเบาะแว้งก็เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ การไม่ค่อยกลับเข้าบ้านก็ถี่ขึ้นๆ
แล้ววันหนึ่งชายหนุ่มก็โซซัดโซเซด้วยอาการเมา กลับเข้าบ้านตอนดึกด้วยการเดิน จากปากซอยเข้าบ้าน และจากวันนั้นชายหนุ่มก็ออกจากบ้านไปปากซอยโดยการเดินไป เรียกแท็กซี่หรือนั่งรถเมล์ แล้วหายไป 2-3 วัน โดยไม่เคยขับรถยนต์ซีตรองคันงามอีกเลย
นางฟ้ากับลูกสาวมีทีท่าเศร้าสร้อยเกินจะกล่าว และเป็นที่สมเพชเวทนาของ บรรดาเพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน แล้วต่อมาเมื่อ “หนุ่มหล่อ” ไม่กลับมาบ้าน “นางฟ้า” ก็หอบลูกแล้วขนของออกจากบ้านทรงสเปญหายไป
ไม่นานก็มีสามีภรรยา เจ้าของบ้านคนใหม่เข้ามาครอบครองคฤหาสน์ทรงสเปญ หลังนั้น
ผมมาทราบภายหลังจากน้าชายและน้าสะใภ้ว่า“ หนุ่มหล่อ” เป็นนักพนันระดับเซียน ทั้งเล่นม้า เล่นไพ่ ไฮโลว์ และการพนันประเภทต่างๆเป็นอาจิณและเป็น “อาชีพ”
ส่วนภรรยา “นางฟ้า”ซึ่งบำเพ็ญตนเป็นแม่บ้านผู้ซื่อสัตย์และแสนดีกลับไปอยู่บ้านเดิมในภาคเหนือกับลูกสาวตัวน้อยที่แสนน่ารัก
ผมยังสะเทือนใจไม่หายในกรณีนี้ แม้เวลาจะผ่านมา 40 กว่าปี และยิ่งสะเทือนใจ กับข่าวที่รัฐบาลกำลังตั้งหน้าตั้งตาตั้ง “สำนักคาสิโน” ทั่ว 10 ทิศ ในประเทศไทย#
//////////////////////////////