พระพุทธศาสนามีคำสอนว่า การพนันเป็นอบายมุข
อบาย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายว่า ที่ที่ปราศจากความเจริญ,ความฉิบหาย
มุข มีความหมายว่า หน้า ปาก ทาง
อบายมุข (อะบายยะมุก) มีความหมายว่า ทางแห่งความฉิบหาย เหตุแห่งความฉิบหาย
อบายมุข มี 2 หมวด
อบายมุข 4 ได้แก่ 1. เป็นนักเลงผู้หญิง 2. เป็นนักเลงสุรา 3. เป็นนักเลงเล่นการพนัน 4. คบคนชั่วเป็นมิตร
อบายมุข 6 ได้แก่ 1. ดื่มน้ำเมา 2. เที่ยวกลางคืน 3. เที่ยวดูการละเล่น 4. เล่นการพนัน 5. คบคนชั่วเป็นมิตร 6. เกียจคร้านการทำงาน
รัฐบาลหรือผู้บริหารประเทศต้องประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เริ่มตั้งแต่ผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รัฐมนตรี (ร.ม.ต.) นายกรัฐมนตรี (น.ร.ม.) ประธานสภาฯ ทั้ง 2 สภา
เพราะเป็นผู้ที่ประชาชนไว้วางใจเลือกให้เป็น “ผู้แทนของปวงชน” เข้าไปทำหน้าที่บริหารประเทศ ดูแลประเทศ ดูแลประชาชน ออกกฎหมายที่พิทักษ์รักษาประโยชน์ของประเทศ รักษากฎหมายที่ตนเองออก เทิดทูนปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทย
ถ้ารัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ กระทำการย้อนแย้ง เป็นปฏิปักษ์ต่อกฎหมายที่ฝ่ายตนเป็นผู้กำหนด กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายที่คณะของตนเป็นผู้ออกและเห็นพ้องกันในความถูกต้อง จนสามารถประกาศใช้ในการปกครองดูแลบ้านเมือง แสดงว่าฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติทรยศต่อตนเองและหมู่คณะ รวมถึงประเทศชาติและราชบัลลังก์
ถ้ารัฐบาลโดยฝ่ายบริหาร กระทำการบริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ตน ตระกูลของตน พรรคการเมืองของตน พรรคพวกบริวารวงศ์วานว่านเครือของตน แสดงว่าคณะรัฐบาลทรยศต่อประชาชนพลเมือง ประเทศชาติ และราชบัลลังก์
โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ประมุขของคณะรัฐบาลที่ถ้าแสดงพฤติการณ์ฉ้อฉล คอรัปชัน เป็นที่ประจักษ์ สร้างความเสียหายให้ท้องพระคลังหลวงสร้างความเสียหายให้กับงบประมาณของประเทศเป็นที่ปรากฏก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ฉ้อฉลคอรัปชันฝูงนั้น ก็ต้องหมดสิทธิ์ในการบริหารและปกครองประเทศ และต้องได้รับโทษตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นและอภิสิทธิ์ใดๆ
บก.